คู่แข่งที่ประมาทไม่ได้

สุรีย์ และผองเพื่อนทำได้ดีที่สุดแล้ว ยังต้องรอแก้ตัวในเกมต่อไป
ทุกคนอาจจะรู้สึกเสียดาย และผิดหวังกับผลการแข่งขันที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เพราะสามารถทำได้ดีที่สุดเพียงแค่แพ้ไปด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งการเสียประตูเร็วตั้งแต่ 26 วินาทีแรก ส่งผลเสียให้รูปเกมของไทยต้องเล่นแบบกดดันตลอดทั้งเกม จนส่งผลทำให้ไม่สามารถยิงประตูได้ในตลอด 90 นาที แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีเกมให้แก้ตัวอีก 4 เกม ซึ่งถ้าสามารถเอาชนะบาห์เรน ได้ ก็จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรอกันไปอีก 4 ปี (อีกแล้ว) หวังว่าพัฒนาการของฟุตบอลไทย จะไม่หยุดลงเพียงแค่นี้
ขณะเดียวกัน ทีมชาติอังกฤษ ก็อุ่นเครื่องเป็นนัดที่สอง ภายใต้การคุมทีมของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ซึ่งก็แพ้ทีมชาติฝรั่งเศส ในถิ่น สต๊าด เดอ ฟร้องค์ ไป 0-1 และได้เห็นฟอร์มการเล่นของทีมชาติอังกฤษ โดยรวมแล้ว ก็ยังดูขาดๆ เกิน แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการทดลองทีมอีกเช่นกัน และคนที่สมหวังมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น เดวิด เบ็คแฮม ที่ทำสถิติติดทีมชาติเกิน 100 นัดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับ พ่อหนุ่มเบ็คส์ ด้วยแล้วกัน

อัฟราม แกรนท์ อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ แต่ตอนนี้ ทีมของเขาเป็นถึงรองจ่าฝูงเชียวนะ
กลับมาที่ประเด็นเรื่องของหัวข้อที่จะมาพูดถึงกันในวันนี้ดีกว่า หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาแกรนสแลม ซันเดย์ หรือ เดอะ แบทเทิ่ล ออฟ บิ๊กโฟร์ หรือการดวลกันระหว่างบิ๊กโฟร์ในวันเดียวกัน โดยมิได้นัดหมาย ก็ได้ผู้ชนะจากการแข่งขันนี้ เป็นทีมจ่าฝูง และรองจ่าฝูงในปัจจุบันขณะนี้ นั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ขณะที่อาร์เซน่อล เจออาถรรพ์ ซานซีโร่ หรือ อาถรรพ์ เอดูอาร์โด้ เล่นงานจนสะบักสะบอม ถึงขนาดที่ว่า เสมอ 4 นัดรวด และแพ้เชลซี นัดล่าสุด จนต้องกระเด็นถอยหล่นไปอยู่ที่ 3 ส่วนลิเวอร์พูล ไม่ต้องพูดถึง เพราะตอนนี้ กำลังจะแย่งที่ 4 กับทีมเพื่อนร่วมเมือง กับ เอฟเวอร์ตัน ซึ่งอาจจะต้องตัดสินกันในวันอาทิตย์นี้ว่า เบียร์คาร์ลสเบิร์ก หรือ เบียร์ช้าง อะไรจะแน่กว่ากัน
ทีมที่น่ากลัวในการเบียดแย่งแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากที่สุดในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้น เชลซี เพราะนอกจากจะรั้งอันดับ 2 ตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 5 คะแนนด้วยกันแล้ว ยังอยู่ในวงโคจรที่จะต้องมาพบกันเองกับ ยูไนเต็ดในนัดก่อนเกือบสุดท้าย (ก็ 2 นัดก่อนนัดสุดท้าย งงมะ?) ที่จะเปิดบ้าน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ยูไนเต็ด แต่คราวนี้ จะได้ยืนปรบมือเรียงแถวต้อนรับแชมป์ เหมือนปีที่แล้วอีกหรือเปล่าไม่รู้ นั่นก็ต้องเป็นสิ่งที่ยังต้องพิสูจน์กันอีกทีนึง

แท็คติก และเทคนิค อาจจะด้อยกว่ามูรินโญ่ แต่ลีลาก็ห้าวได้ไม่แพ้กัน
ในตอนแรกๆ หลังจากที่โฆเซ่ มูรินโญ่ พ้นตำแหน่งกุนซือของทีมอภิมหาเศรษฐี กลางกรุงลอนดอน หลายฝ่ายก็เชื่อว่า ทีมสิงห์บลูส์ ที่ไร้เงาของจอมอหังการโปรตุกีสผู้นี้ไปแล้ว จะต้องพบกับความตกต่ำถึงที่สุด ซึ่งมันก็เป็นจริงแค่บางส่วน เพราะตอนนี้ เชลซีกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้กับทีม ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ในศึก คาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงชนะเลิศ แต่ต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านั้น เชลซี ก็ชนะ ลิเวอร์พูล มาได้เหมือนกัน
พอมาถึงตอนนี้ ก็ยังสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หลังพลิกสถานการณ์ของตัวเอง จากที่โดนอาร์เซน่อล ยิงนำไปก่อน 1-0 กลับยิงแซงนำได้สองประตูจาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้ นั่นหมายความว่า ทีมเชลซี ที่มีเจ้าแมลงสาปผู้นี้เป็นตัวแสบสำหรับทุกทีม และนอกจากนี้ยังไม่พอ ยังมี นิโคล่าส์ อเนลก้า ดาวยิงผู้มากประสบการณ์ ในการใช้ชีวิตหลายสโมสร (และไม่เชื่อว่า เชลซี จะเป็นสโมสรสุดท้าย ของ นิโก้) เข้ามาเป็นตัวเสริมในแนวรุก ทำให้อยู่ในช่วงฟอร์มที่เข้าฝัก (เฉพาะเกมรุก) ขณะที่เกมรับยังดูขาดๆ เกินๆ แต่นั่นก็มีเหตุผลเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้ ยูไนเต็ด ต้องระวังทีมนี้ให้มากยิ่งขึ้น

เงาของมูรินโญ่ ยังตามหลอกหลอนทุกทีมในขณะนี้ ด้วยรากฐานของแท็คติกที่วางไว้
แทคติก และเทคนิคของเชลซี ในขณะนี้ ดูแทบจะไม่แตกต่างอะไรกับ โฆเซ่ มูรินโญ่ เคยวางแผนใช้มาก่อนหน้านี้ หรือเรียกได้ว่า แทบจะก๊อปแผนใส่ เมมเมอร์รี่ การ์ดมาเลยก็ว่าได้ แต่นั่นก็เป็นข้อดีตรงที่ว่า นักเตะแต่ละคน แทบจะไม่ต้องจำเป็นปรับตัวอะไรให้มากมาย นั่นก็เป็นจุดแข็งของทีมเชลซี ที่มี มูรินโญ่ เป็นผู้วางรากฐานของ แท็คติกในเกมรับ และสวนกลับ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่ง อัฟราม แกรนท์ อาจจะไม่ใช่คนที่เก่งเรื่อง แท็คติกมาก แต่มันก็ช่วยได้เยอะเลยทีเดียว

กัปตัน ต๊อดติ ถึงคราวซวยอีกครั้ง เมื่อกลับมาเจอ ยูไนเต็ด ที่เคยยิงทีมหมาป่าไส้แตกมาแล้ว
แฟนผีหลายๆ คนอาจจะรู้สึกกังวลกับตำแหน่งจ่าฝูงของตัวเอง ที่ว่า กลัว ท่านอัศวิน เซอร์ อเล็กซานเดอร์ เฟอร์กูสัน ประมาทกับการทำทีมในช่วงท้ายๆ ฤดูกาล ซึ่งพระยาขุนหมื่นแพนด้าผู้นี้ จำคำนี้ได้ขึ้นใจตั้งนาน และไม่ต้องย้ำมากก็ได้โว้ย! กับคำว่า “ประมาท” เนี่ย เพราะเฟอร์กี้ คงจะไม่ปล่อยให้แชมป์พรีเมียร์ ลีก สมัยที่ 10 และแชมป์ลีกครั้งที่ 17 ลอยหลุดมือไปอย่างง่ายๆ แน่นอน รวมไปถึงการเตรียมการฝ่าฟันเข้าไปสู่สังเวียนถ้วยยุโรปที่ มอสโคว ให้ได้ โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องผ่าน โรม่า และ บาร์เซโลน่า หรือ ชาลเก้ 04 ไปให้ได้เสียก่อน
ถึงแม้ว่าตอนต้นฤดูกาล คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยพูดไว้ว่า กาชื่อทีมเชลซี ออกจากสาระบบของการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ไปแล้ว แต่เฟอร์กี้ ไม่เคยมีความคิดที่จะตัดชื่อ “เชลซี” ออกจากสาระบบการเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก อย่างแน่นอน
ManSmith

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts